ข่าวปลอม! Power Factor Saver ช่วยประหยัดค่าไฟถึง 50%

ข่าวปลอม! Power Factor Saver ช่วยประหยัดค่าไฟถึง 50%

จากที่มีการเผยแพร่ถึงตัวอุปกรณ์ Power Factor Saver ที่สามารถช่วยในการประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากถึง 50% นั้น ไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด (3 พ.ค. 2565) ตามที่มีการแนะนำ Power Factor Saver ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าสูงสุด 50% โดยไม่ผิดกฎหมาย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยการไฟฟ้านครหลวง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีข้างต้นที่มีอุปกรณ์ที่ว่าได้มีการระบุว่าหากนำไปเสียบกับเต้ารับไฟฟ้าภายในบ้านจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือน 

ได้สูงสุดถึง 50% นั้นทางการไฟฟ้านครหลวง ได้ชี้แจงว่าอุปกรณ์ดังกล่าว ไม่สามารถประหยัดไฟฟ้าได้จริงและอาจส่งผลให้ระบบไฟฟ้าผิดปกติหรือกระทบต่อระบบจำหน่ายไฟฟ้าซึ่งอาจมีความผิดตามกฎหมายได้ซึ่งเมื่อทำการผ่าพิสูจน์ตัวเครื่อง พบเป็นเพียงตัวควบคุมหลอดแอลอีดีและคาปาซิเตอร์ ที่เป็นตัวเก็บประจุ

โดยมีอุปกรณ์หลักที่ทำหน้าที่เพียงแค่ 2 ชิ้นเท่านั้น หากใช้ยังส่งผลให้เสียค่าไฟเพิ่มมากขึ้นและเมื่อใช้งานไปนานๆ อาจส่งผลให้เกิดไฟไหม้ภายในตัวบ้านได้อีกด้วย อีกทั้งเว็บไซต์ยังยังแอบอ้างโดยการนำภาพข่าวของกฟน. และสื่อมวลชนต่าง ๆ ไปตัดต่อสร้างความน่าเชื่อถือใช้โฆษณาชวนเชื่อหลอกลวงประชาชน

จึงขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ สำหรับอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้าที่มีอยู่จริงนั้น จะนำมาใช้ในบางกรณีสำหรับภาคอุตสาหกรรมเท่านั้น เป็นอุปกรณ์ที่มีราคาสูงซึ่งจะประหยัดไฟฟ้าได้ในลักษณะการเรียกเก็บค่าเพาเวอร์แฟคเตอร์ เช่น กิจการขนาดกลาง กิจการขนาดใหญ่ หรือกิจการเฉพาะอย่าง ดังนั้น ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยทั่วไปแทบจะไม่ได้รับประโยชน์จากการติดตั้งเครื่องประหยัดไฟฟ้าเหล่านี้

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และหากประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการขอคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถติดต่อผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของ 3 การไฟฟ้า หรือติดต่อผ่าน MEA Call Center โทร. 1130 หรือ PEA Call Center 1129 หรือศูนย์บริการข้อมูล กฟผ. โทร. 1416 ตลอด 24 ชั่วโมง

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : อุปกรณ์ดังกล่าวนั้นไม่สามารถประหยัดไฟฟ้าได้จริง และอาจส่งผลให้ระบบไฟฟ้าผิดปกติหรือกระทบต่อระบบจำหน่ายไฟฟ้า ซึ่งอาจมีความผิดตามกฎหมายได้

‘หมอธีระ’ เตือน ยอดตายโควิดไทย ติด 10 อันดับแรก ต่อเนื่อง 17 วัน

หมอธีระ ออกมาเตือนประชาชนให้ยังคงระมัดระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เผย ยอดตายโควิดไทย ติด 10 อันดับแรก ต่อเนื่อง 17 วัน รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พูดถึงเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่าประเทศไทยนั้นมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ติด 10 อันดับแรก ต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 17 แล้ว

โดยข้อความระบุว่า “จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก และอันดับ 4 ของเอเชีย ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก แม้ว่าจำนวนเสียชีวิตที่รายงานจะลดลงมากตั้งแต่ 1 พ.ค. เพราะหน่วยงานไทยปรับการรายงานเหลือเฉพาะคนที่เสียชีวิตจากโควิด-19 (Death from COVID-19) ไม่รวมคนที่เสียชีวิตจากโรคร่วมและพบว่าติดเชื้อ (Death with COVID-19)

ทั้งนี้ จำนวนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานนั้นคิดเป็น 27.63% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย หากดูจำนวนการติดเชื้อใหม่ต่อวัน รวม ATK ไทยเราจะติดอันดับ Top 10 ของโลกมาติดต่อกันยาวนานถึง 46 วันแล้ว

ส่วนจำนวนการเสียชีวิตต่อวันนั้น ติดอันดับ Top 10 ต่อเนื่องมาแล้ว 17 วัน

การแยกจำนวนการเสียชีวิตเป็น 2 กลุ่มคือ

1. Death from COVID-19

2. Death with COVID-19

หากแยกกลุ่มได้ชัดเจน ก็อาจเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนจัดการดูแลรักษา และป้องกัน แต่จำเป็นต้องนำเสนอให้สาธารณชนได้ทราบ “ทั้งสองกลุ่ม” เพราะสถานการณ์ระบาดจริงนั้นครอบคลุมคนทั้งสองกลุ่ม

หากเลือกนำเสนอเพียงส่วนเดียว ก็ย่อมทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อน เห็นเพียงภาพบางส่วนของจำนวนผู้เสียชีวิตและติดเชื้อทั้งหมด

เสนอ “ทั้งสองส่วน” พร้อม “ยอดรวม” ก็ยิ่งทำให้ระบบรายงานมีความละเอียดรอบคอบ โปร่งใส และทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้ ประเมินสถานการณ์ได้ และนำไปใช้ตัดสินใจประพฤติปฏิบัติตัวให้อยู่รอดในสถานการณ์ระบาดได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ไม่ควรรายงานเพียงส่วนเดียว

นี่คือสิ่งที่ควรทำในภาวะวิกฤติ เพื่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของทุกคนในสังคม”

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป